วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554

สุขด้วยปัญญา

สุขด้วยปัญญา คนเราถ้ายอมรับความจริงได้ก็สุขใจขึ้นได้มาก วางใจให้ถูก ที่จริงแล้วการใช้ชีวิตไม่ต้องให้ใครมาบอกมาสอน วันที่เรามีเงินในบัญชีติดลบหรือเหลือค้างบัญชีไม่เท่าไหร่ภาวนาว่าให้รอดสิ้นเดือน เราจะทำอย่างไร ถึงเวลาที่จะต้องปรับตัวหรือยัง ลดความอยากลง ในยามที่เรามีเงินมีกำลังพอที่จะควักเงินซื้อของบริโภคได้เราก้สนองความอยากด้วยการซื้อมาไว้ครอบครอง ในวันที่ไม่มีกำลังทรัพย์ เราต้องปรับความอยากล มองหาความสุขจากสิ่งใหม่ บางทีความสุขนั้นอาจอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ไม่ว่าเราจะเจอวิกฤตแค่ไหนถ้าเรายังรักษาใจให้คงที่สมบรูณ์ได้ถือว่าสุดยอดแล้ว คนเรามักเจอกับปัญหาอยู่เสมอจะเล็กจะใหญ่ก็ไม่อยากเจอถ้ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้เราต้องหลีกเลี่ยงความคิด๒อย่างนี้ให้ได้ ถ้าหลีกเลี่ยงได้เราก็จะทนทายาทถือว่าอยู่ได้ไม่มีปัญหาสบายมาก ๑.ไม่ยอมรับความความจริง ๒.ความกังวล ความพอใจนี้เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเรายังหาความพอใจให้ชีวิตไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าเราจะเหนื่อยกันอีกนานไหม ไม่รู้ว่าจะจบกันอย่างไรบางทีจนตายก็ยังหยุดพอไม่ได้ ตักน้ำใส่ถังถ้าถังมันรั่วมันก็ไม่มีวันเต็ม ใจที่ไม่รู้จักพอจะแสวงหามาตอบสนองเท่าใดก็ไม่รู้จักอิ่ม เราเองก็ไม่รู้ว่ามันจะหยุดพอเมื่อไหร่ ถ้าตามใจอย่างนี้ไปเรื่อยๆเราก็ต้องเหนื่อยหน่อยที่จะออกหาอาหารมาเติมเต็ม อาตมาก็นึกถึงคำว่าว่าคนไม่มีเมืองพอ นักธุรกิจบางคนขายหุ้นได้ ๒๐ ล้าน เขากลับรู้สึกเสียใจ เพราะว่าเขาตัดสินใจขายหุ้นเร็วเกินไปเพราะถัดจากวันนั้นปรากฏว่าหุ้นขึ้น ถ้าเขายังรออีกนิดเขาจะได้กำไรเพิ่มอีก ๕๐ ล้านแกผิดหวังในตัวเองไม่พอใจ เทียบกับตามีตาสีถูกหวย ๔๐๐๐ บาททั้งกระโดดทั้งเต้นดีใจไปทราบว่าอีกคนถูกมากกว่า ๑๐.๐๐๐ก็ไม่พอใจเป็นทุกข์อีกหาว่าเขาถูกมากกว่า ไม่พอใจ จะมีหุ้น๒๐ ล้าน ถูกหวย ๔,๐๐๐ กับเงินค้างบัญชีไม่ถึงสิ้นเดือนมันก็ทุกข์เหมือนกัน ไม่ยอมรับความจริงต่างคนก็ต่างกังวล มองหาความสุขที่ไหนไม่ได้ก็กลับมาหาตัวเรา เวลาเรานั่งทบทวนชีวิตเรานึกถึงความดีหรือความชั่วได้มากกว่ากัน บางพอบอกให้ทบทวนอดีตตัวเองภาพอกุศลปรากฏขึ้นปานดอกเห็ด นึกความดียากมากเหลือเกิน นึกถึงความสุข บุญกุศลไม่ได้ ในชีวิตเราเคยทำเคยสร้างความดีอะไรไว้ให้ตัวเองภูมิใจสำคัญอยู่นะ อย่างน้อยเวลาใกล้ตายใจยังพอนึกถึงเป็นกุศลเป็นปิติพอจะเห็นสุคติได้บ้าง ความสุขง่ายๆของคนเราเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์ เกิดจากความไม่มีโรค เกิดจากความไม่มีหนี้ ในยุคนี้เราได้ใช้จ่ายทรัพย์สินเงินทองซื้อความสะดวกสบายก็ต้องปรับเปลี่ยนวิถีการดำรงชีวิต คนจะเก่งจะไปรอดไม่รอด วัดกันอยู่ที่การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ถ้ายังมองว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างนี้อีกสักปีสองปี ต้องรู้แล้วว่าประมาทไม่ได้การใช้จ่ายทรัพย์สินสุรุ่ยสุร่ายไม่ได้ ปัจจัยการดำรงชีพต้องเปลี่ยน ถึงยุคออมยุคประหยัด ทุกวันนี้เรากังวลกับปัยหาเศรษฐกิจ การเมือง สิ่งแวดล้อม มันกระทบเราโดยตรงทั้งนั้น เราคนเดียวยังพอไหว ไหนจะพ่อแม่ครอบครัวลูกเมียภาระหนักอึ้งมองไปหาใครที่ไหนไม่ได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง แก้พฤติกรรมของเรา พฤติกรรมการบริโภค จับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี ถ้าเราพอประมาณได้เราก็อยู่รอด การเมืองถ้าเราตามหน้าที่ยอมรับเคารพกันก็ไม่ใช่ปัญหา สิ่งแวดล้อมเราต้องใช้ให้ถูกใช้ให้ประหยัด มีความรับผิดชอบ เรียบง่าย สบาย ไม่กังวล ทำไมถึงต้องอยู่กับปัจจุบัน ทำไมเวลาพระเทศน์ถึงบอกให้เราอยู่กับปัจจุบัน เคยรู้ไหมว่าปัจจุบันดีอย่างไร ปัจจุบันคือความจริง ความจริงอย่างที่เราเป็นอยู่ คิดอะไรก็รู้ เห็นความคิด รู้เท่าทันความคิด ทำอะไรก็รู้ ถ้าเราไม่อยู่กับปัจจุบันไปอยู่กับอนาคตกลายเป็นหลักลอย ฝันเลื่อยลอยเรื่อยไร้จุดหมาย เวลาคิดถึงอนาคตคิดอย่างไรคิดถึงความเป็นจริง ไม่ใช่คิดเพ้อเจ้อ ถามเราว่าปัจจุบันกับอนาคตอะไรสำคัญที่สุด มีคนสองคุยคุยกันไปกันมา ความคิดไม่ตรงกันมันออกรสออกชาติ เริ่มมีเสียงขึ้น คนหนึ่งจับได้มีดฟันอีกคนหัวแบะไป เพราะตามความคิดไม่ทันไม่อยู่กับปัจจุบัน เรามีความสุขเวลาโบนัสออกเงินเดือนออกหรือความสุขเรามีแค่นั้นแล้วตอนที่เราอยู่บ้าน อยู่กับพ่อกับแม่ ทำงานไม่มีความสุขเลยหรือ เราคิดว่าเรียนจบแล้วมีงานทำจึงจะมีความสุข เรียนจบสูงๆเป็นดร.อย่างนั้นหรือ บางทีเราลืมไปว่าปัจจุบันเราก็มีความสุขได้ อย่างภาพยนตร์เรื่องลัดดาแลนด์ เขาสอนให้เข้าใจชีวิตหลายอย่าง มีอยู่ฉากหนึ่งที่ผู้ชายคิดว่าภรรยามีชู้แล้วก็เกิดภาพตัวเองยิงภรรยา นั่นคือความคิดมันหลอกเรา เราต้องตามให้ทัน ครอบครัวนี้โดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน ยอมรับความจริงไม่ได้ ตามหาหาความสุขอยู่ปลายฟ้า มีทั้งความไม่เข้าใจความรักความฝันแต่หลายๆอย่างก็ทำให้ครอบครัวนี้พังลง ในพุทธประวัติมีนิทานท่านผูกไว้ว่าเรื่องลุงกับหลานมาบวชพระหลานไปปรนนิบัตหลวงลุง พัดวีหลวงลุงอยู่ พระหลานพลางก็คิดไปว่ามีโยมมาถวายผ้าจีวรเนื้อดี ๒ ผืน ผืนหนึ่งให้เราผืนหนึ่งให้หลวงลุง คิดไปต่างๆนานาก็คิดไปอีกว่าสึกไปมีครอบครัวดีกว่าคงดี นึกต่อไปจนจับได้ว่าภรรยามีชู้ด้วยความโมโหจึงตีเมีย มือที่ถือด้ามพัดอยู่นั้นก็เขกโป๊กใส่หัวหลวงลุง เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าอนาคตก็อย่ากังวลมากนัก สติสมาธิจึงเป็นอุปการะอย่างมากในชีวิตที่จะทำให้เราอยู่กับปัจจุบันได้เข้าใจปัจจุบันได้ ช่วงนี้แม้ว่าเงินในกระเป๋าจะน้อยลง ไม่เหมือนเมื่อตอนที่กระเป๋าตุงสามารถเดินห้างได้บ่อย ซื้อของได้ตามต้องการ ก็ลองหันมาใส่ใจอย่างอื่นหันมาทำกิจกรรมใหม่ เดินเข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม ให้ดีจริงๆลองปฏิบัติธรรมฝึกหัด กาย วาจา ใจดูบ้างว่าจะพบความสุขเหมือนที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้หรือไม่ลองดู...ลองดี ลองทำดี ลองดี ลองดู...

วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2554

ส่องใจ ส่องธรรม

ดอกไม้ที่ผลิบานสวยงามยามเมื่อได้รับแสงอรุณ ชีวิตคนเราก็เหมือนกันเมื่อน้อมธรรมะมาปฏิบัติจึงจะเป็นชีวิตที่เจริญ การได้รู้จักตัวเองด้วยการหมั่นสำรวจอกุศลในใจ หมั่นปฏิบัติขัดเกลาจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอกิเลสนี้ก็จะค่อยเบาบางลง ความหยาบกระด้างของนิสัยก็จะอ่อนลง ทำให้กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต อันที่จริงการที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมทั้งหลายแก่มหาชนชาวโลกอย่างเรา ก็เพื่อหวังจะอนุเคราะห์ให้คนเราได้รับประโยชน์จากการมีชีวิตอยู่ในโลกที่มีเวลาเพียงน้อยนิด ไม่ให้คนเราประมาทคลาดจากธรรมหรือประโยชน์พึงได้จาการอยู่ในโลกนี้ โลกเราหากไร้ศีลธรรม ไม่มีความละอายไม่พากันเกรงกลัวต่อผลของบาปอกุศล มันก็อยู่กันยากที่บอกกันว่าให้ทุกคนปฏิบัติธรรมคือคือบอกให้ทุกคนสอนตัวเอง อบรมตัวเอง พัฒนาตัวเองให้เป็นผู้เจริญ หากเรารู้อยู่แล้วว่าเรายังมีความหลงมากอยู่ มีกิเลสมากอยู่ ก็ต้องน้อมธรรมที่เป็นเหตุให้เราเป็นผู้เจริญมาปฏิบัติเพื่อยกระดับจิตใจให้สะอาดยกคุณภาพชีวิตของเราให้สูงขึ้น ถ้าเรายังมัวชี้โทษคนอื่นแต่เราไม่รู้จักชี้โทษตัวเราเอง คนอื่นก็ได้ปัญญาไปส่วนตัวเราก็ยังต้องวุ่นวายต่อไป ปัญญาที่มีให้เราน้อมเข้ามาสอนตัวเอง คนเรานั้นจะบริสุทธิ์ได้ด้วยปัญญา เห็นธรรมได้ด้วยปัญญา เงินซื้อนิพพานของพระพุทธเจ้าไม่ได้ แต่ละคนให้รู้จักหน้าที่ของตัวเอง การทำหน้าที่ของตัวองคือการปฏิบัติธรรม ประพฤติกายให้สุจริต วาจาให้สุจริต ใจให้สุจริต การงานที่ตัวทำนั้นให้สะอาดคือการประพฤติธรรม เป็นครูให้เป็นครูที่ดี เป็นลูกเราก็ต้องเป็นลูกที่ดี เป็นพระก็ต้องเป็นพระที่ดีเป็นพ่อแม่ก็ต้องเป็นพ่อแม่ที่ดี คนเรานั้นเกิดมามีหน้าที่การงานของตนอยู่แล้วอย่าไปละเมิดผู้อื่นก็คือการประพฤติกายให้สุจริต ไม่อาฆาตพยาบาทปองร้ายคิดละโมบโลภของผู้อื่นก็คือประพฤติมโนสุจริต การะทำต่อกันด้วยเมตตา เราประพฤติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างนี้โลกเราก็อยู่สบาย อยากสบายก็อย่าทิ้งธรรมะ ศีลตัวสำคัญทำให้โลกเราเจริญ เจริญในศีลคือใจเราเจริญไม่ใช่วัตถุเจริญ มีความสุขสบายใจ ไม่มีการฆ่าการเบียดเบียน ไม่ว่าร้ายไม่ทำร้ายไปที่ไหนก็มีความสุข อยู่สบาย ขับรถอยู่มันก็สบายเรียนก็มีความสุขต่อให้อยู่ในที่ลำบากตกอยู่ในที่จนก็มีความสุขถ้ามันรู้จักพอประมาณ ทุกคนพึงสังวรตัวเอง พิจารณาตัวเองนั่นแหละเรื่องดี โลกเราจะอยู่สบายขึ้นถ้าเราอยู่กันด้วยธรรม บางช่วงเวลาชีวิตเรามีปัญหามาก ต้องยอมรับและเข้าใจให้ได้ไม่อย่างนั้นมันทุกข์อยู่ให้ได้จะหนักจะเบาท่องไว้ว่าไม่เป็นไรทนได้สบายมาก อย่าแพ้ใจตัวเอง บางคนตัดสินใจชั่วครู่เดียวทิ้งทุกอย่างในโลกนี้ หากเราเข้าใจว่าชีวิตเรามันสำคัญมากมีค่ามากว่าเงินทองชื่อเสียงหน้าตา หลายคนก็จะไม่ทำอย่างนั้น บางทีเราอย่าไปตัดสินใจว่าไม่ได้ดั่งหวังมันคือจุดสิ้นสุดของชีวิตไม่ใช่ สิ่งที่เรามี สิ่งที่เราได้มามันเกิดขึ้นเพราะธรรมชาติการที่มันจะดับไปมันก็จะดับไปเพราะเหตุของธรรมชาติ ตัวเราก็ธรรมชาติมาได้ก็เพราะธรรมชาติ ธรรมชาติของโลกมันมาอย่างไรก็ไปอย่างนั้น มันไม่หนีจากเรา เราเองก็จะต้องหนีจากมัน เรื่องของเรื่องก็คือเรื่องของธรรมดา ทีว่ามานี้ก็ว่าเรื่องของธรรมดา ธรรมก็คือของธรรมดา พระพุทะเจ้ารู้ของธรรมดา พิจารราให้แจ่มแจ้งมันเป็นอย่างนั้น ขอให้เราเห็นตามนั้น ไม่ใช่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น รู้ดูมันเฉยๆ ชีวิตที่มันวุ่นวาย น้ำที่มันมีคลื่นก็ให้ดูมันเฉยๆอย่าเอาใจของเราไปห้ามมันให้หยุดไหล สุข-ทุกข์เกิดขึ้นมันจึงจะเห็นว่ามันเป็นอย่างนั้น ใจเราก็สงบ “ยถาภูตญาณทัศนะ” รู้เห็นตามความเป็นจริง ปัญญามันก็เกิด เดินไปตามทางสายนั้น ทางแห่งปัญญาจึงจะเข้าถึงจุดหมาย พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าคนที่เข้าถึงนิพพานมีน้อยส่วนคนหมู่มากก็ไม่ได้ไปไหนเพียงแต่พากันเดินวนไปวนมาตามริมฝั่งนั้นนี้เอง ผลมีอยู่แล้ว ตัวเราต้องสร้างเหตุให้เกิดขึ้น มรรคคือหนทางนั้นก้มีอยู่ ถ้าเราละเลยเหตุผลก็ไม่เกิด ธรรมก็ไม่เกิดผู้เห็นก็ไม่มีผู้เห็นตามพระพุทธเจ้าก็ไม่มี เราต้องสร้างชีวิตเราให้เป็นชีวิตที่อุดมไปด้วยมงคลชีวิตที่ประเสรฐิคือชีวิตที่ประพฤติธรรมให้สุจริต