แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตัณหาพาทุกข์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ตัณหาพาทุกข์ แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

หยุด ตัวเดียว คือสำเร็จ

ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห
ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ
เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต
นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุนํ.
เมื่อรากปราสจากอันตรายมั่นคงอยู่
ต้นไม้ที่ตัดแล้วย่อมกลัลงอกขึ้นได้ ฉันใด
เมื่อบุคคลยังถอนเชื้อตัณหาไม่ได้ ทุกข์นี้ย่อมเกิดขึ้นบ่อยๆ ฉันนั้น

ละตัณหาได้ ไม่ต้องเกิด

ตัณหาที่ก่อให้เิกิดภพใหม่
ตัณหาทีลักษณะที่ทำให้เพลิดเพลินและผูกพัน ผู้คนจึงมักจะเพลินเพลินในภพและอารมณ์ต่างๆที่ๆด้มา อีกทั้งต้องการความถาวรการตั้งอยู่ของสิ่งเหล่านั้นที่ได้มา เพื่อการที่จะได้สมอารมณ์ตามต้องการ เจตนาหรือกรรมเหล่านี้มัีทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรมตามสมควรซึ่งเป็นสิ่งก่อให้เกิดภพใหม่
เมื่อบุคคลใกลล้จะตาย จะมีกรรมอารมณ์ทั้งดีและชั่วบางครังเรียกกรรมคตินิมิต (ความคิดอย่างหนึ่งอย่างใด ที่เกี่ยวข้องกับกรรม(การกระทำ)ในอดีตหรืออาจจะมีคติแห่งภพใหม่ที่ผลของกกรรมจะนำไปเกิด
กรรมอารมณ์หรือกรรมนิมิต หรือ คตินิมิตซึ่งปรากฏแก่บุคคลในขณะใกล้เสียชีวิต จะถูกตัณหายึดมั่นไว้จนไม่สามารถสลัดออกจากใจได้ อุปมาเหมือนเงาของภูเขาที่แผ่ปกคลุมแผ่นดิน กรรมอารมณ์ กรรมนิมิต เเละคตินิมิต ก็แผ่คลุมจิตใจในขณะใกล้เสียชีวิต (มรณาสันนชวนะ หรือ ชวนจิตใกล้ตาย หรือ อภิสังขารวิณญาณ คือ จิตปรุงแต่ง ปฏิสนธิ )
พุทธพจน์ในอังคุตตรนิกาย ความว่า "อิติ โข อานนฺท กมฺมํ เขตตํ .วิญฺญาณํ พีชํ. ตณฺหา เสนฺโห. อานนท์ ด้วยเหตุนี้เเล กรรมจึงชื่อว่าไร่นา วิญญาณจึงชื่อว่าเมล็ดพืช ตัณหาจึงชื่อว่าความชุมชื่น" อธิบายว่า จะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่วเปรียบเสมือนไร่นาอันเป็นที่เพาะปลูก อภิสังขารวิญญาณคือจิตปรุงแต่งปฏิสนธิ ที่ประกอบด้วยเจตนาในขณะใกล้เสียชิวิตซึ่งเหมือนกับเจตนาในขณะทำกรรมครั้งก่อนเหมือนเมล็ดพืช ตัณหาคือความเพลิดเพลินในภพและในอารมณ์ต่างๆเหมือนฝนเหมือนความชุ่มชื่น ในขณะใกล้เสสียชีวิตนั้นชวนจิตปรุงแต่งปฏิสนธิได้รับเอาอารมณ์ กรรมนิมิตเเละคตินิมิตเป็นอารมณ์ อีกทั้งตัณหาที่พอใจในกรรมอารมณ์
เป็นต้น ย่อมก่อให้เกิดปฏิสนธิจิตในภพใหม่ด้วยการอุปถัมภ์ของชวนจิตดังกล่าว
การเกิดใหม่เกิดได้ปัจจัย ๒ ประการ คือ กรรม และตัณหา ลำพังเเพียงกรรมไม่อาจนำไปสู่การปฏิสนธิได้ เพราะไม่มีตัณหาเป็นเครื่องอุปถัมภ์ค้ำจุน ดังนั้น พระพุทธองค์จึงไม่ตรัสว่าเหตุให้เกอดทุกข์คือกรรม แต่ตรัสว่าตัณหา เพื่อแสดงถึงมูลเหตุของการเกิดความทุกข์